การฝึกวาดท่าทาง ( Gesture contour Drawing)

บทความในส่วนนี้เป็นภาคต่อ ของ”จะสอนเด็กวาดภาพได้อย่างไร ?” หลังจากส่วนแรกได้กล่าวถึงการฝึกการวาดจากการสังเกต ซึ่งเป็นการฝึกการมองอย่างละเอียด ในส่วนที่ 2 นี้จะเป็นการฝึกการมองภาพรวม อันเป็นทักษะที่จะมาเสริมกันเพื่อที่จะได้ข้อมูลในการวาดภาพที่สมบูรณ์ขึ้น

 

การ วาดท่าทางเป็นวิธีตรงกันข้ามกับการวาดจากการสังเกต ในขณะที่ blind contour เริ่มจากการวาดเส้นขอบและต้องการการสังเกตและสร้างภาพอย่างช้า ๆ gesture drawing เริ่มจากจุดศูนย์กลางและใช้การวาดภาพ และระบายสีที่รวดเร็วลงบนส่วนต่าง ๆ ของวัตถุโดยไม่ต้องมีเส้นขอบ แต่พยายามที่จะสร้างรูปทรงของสิ่งที่กำลังวาด Gesture drawing ใช้ความรวดเร็วและแสดงความรู้สึก ในขณะที่ contour drawing ใช้ความประณีต และช้า ในการสลับกันในการฝึกฝนของทั้ง gesture drawing กับ blind contour จะช่วยพัฒนาคุณภาพของงานเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดีการฝึกทั้ง 2 แบบสามารถนำมารวมกันได้ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ

จะวาดอะไร(ดี)

Gesture drawing เหมาะสำหรับการวาดคน สัตว์และสิ่งของที่กำลังเคลื่อนไหว หรือสำหรับหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการแสดงความรู้สึกทางอารมณ์ แบบที่วาดจะวางท่าทางราวกับว่ากำลังเคลื่อนไหวทำอะไรอยู่ เล่นกีฬา หรือมีอาการที่แสดงออกความรู้สึกอย่างหนึ่งอย่างใดออกมา
สำหรับการวาดภาพ จากการสังเกตในทุก ๆ แบบ ทั้ง contour drawing และ gesture drawing ครูควรเลือกสิ่งที่จะวาดที่ไม่ใช่สิ่งที่เด็กได้เคยเรียนรู้ หรือเคยวาดมาก่อนแล้ว การสังเกตสิ่งใหม่ ๆ จะต้องการการใส่ใจมากกว่าการวาดสิ่งที่คุ้นเคยหรือสัญลักษณ์ที่รู้จักดี การสังเกตสิ่งใหม่ทำให้เกิดการทำงานของสมองในส่วนที่ต่างออกไปจากการวาดสิ่ง ที่เด็กคุ้นเคย หรือสามารถวาดได้จากความทรงจำ มันเป็นการช่วยให้เด็กเลือกบันทึกสิ่งที่น่าสนใจสำหรับเค้า เด็กสามารถได้รับโอกาสที่จะเลือกของเล่น สัตว์เลี้ยง และสิ่งของต่าง ๆ รอบตัวที่เขายังไม่เคยใช้มาเป็นแบบมาก่อน แล้วถ้าสิ่งที่นำมาวาดมันธรรมดาเกินไป ให้จัดวางสิ่งนั้นให้แตกต่างออกไป หรือจัดให้มันดูแตกต่างไปจากที่เคยเป็นเพื่อให้ท้าทายขึ้น หรืออาจจะกลับหัวกลับหางของแล้วให้วาดใหม่อีกครั้งนึง

สอนวาดภาพ,สีน้ำ,สีน้ำมัน,สีอะครีลิค,ศิลปะเด็ก,ติวนฤมิตศิลป์,ติวทฤษฎีนฤมิตศิลป์,ติวมัณฑนศิลป์,ติวพัสตราภรณ์,ติวนิเทศศิลป์,ติวออกแบบภายใน,ติวสถาปัตย์ ,การทำ Portfolio ,Fashion,Computer Graphic,ติวแฟชั่น,ติวออกแบบ,ติววาดรูป,เรียนวาดรูป,เรียนศิลปะ,เรียนศิลปะเด็ก,ติวความถนัด,ติวสีน้ำ,ติวเขียนแบบ,ติวเข้าศิลปากร,ติวเข้าลาดกระบัง,รับทำกรอบรูป,กรอบรูป,ตัดกรอบรูป,กรอบลอย

เรา เริ่มด้วยสิ่งของที่ไม่ยากมาก แต่ยังคงมีอะไรเล็ก ๆ ที่ไม่ธรรมดา เช่นเราอาจจะให้วาดแอบเปิ้ล หรือผลไม้ที่ยังคงมีใบติดอยู่ หรือผลไม้ที่ไม้ได้มีสีเดียว หรือผลไม้ที่รูปร่างประหลาดไปจากปกติได้ยิ่งดี หรืออาจจะเป็นขนมที่ถูกกัดไปแล้วบางส่วน รสชาติ สัมผัส เสียงและกลิ่นเป็นการกระตุ้นด้านประสาทสัมผัสที่ดีที่หลากหลายในการสังเกต หรือจะวาดสิ่งที่คุณกินค้างไว้บางส่วนก็ยิ่งดี
วัตถุในการวาดที่ดีที่สุด ควรมาจากในชีวิตประจำวัน เช่น อาหาร ของใช้ในบ้าน ของเล่น คนในครอบครัว ของสะสม เพื่อนของเรา เกมส์ที่เราเล่น งานของเรา สัตว์เลี้ยงของเรา เพื่อนบ้าน การไปเที่ยวของเรา และอื่น ๆ ที่เราได้มีประสบการณ์ตรงกับสิ่งนั้น

สอนวาดภาพ,สีน้ำ,สีน้ำมัน,สีอะครีลิค,ศิลปะเด็ก,ติวนฤมิตศิลป์,ติวทฤษฎีนฤมิตศิลป์,ติวมัณฑนศิลป์,ติวพัสตราภรณ์,ติวนิเทศศิลป์,ติวออกแบบภายใน,ติวสถาปัตย์ ,การทำ Portfolio ,Fashion,Computer Graphic,ติวแฟชั่น,ติวออกแบบ,ติววาดรูป,เรียนวาดรูป,เรียนศิลปะ,เรียนศิลปะเด็ก,ติวความถนัด,ติวสีน้ำ,ติวเขียนแบบ,ติวเข้าศิลปากร,ติวเข้าลาดกระบัง,รับทำกรอบรูป,กรอบรูป,ตัดกรอบรูป,กรอบลอย

Here Kathe Kollwitz used pen and brush in her Mothers from 1921 (in the Boston Museum of Fine Arts) to enhance expressiveness with gesture.

การสังเกตไม่ใช่ทั้งหมดของการวาดภาพ

เด็ก ได้เรียนรู้ทักษะการคิดที่ดีได้จากการทำงานในเรื่องที่เกี่ยวกับจินตนาการ จากการประดิษฐ์ จากการออกแบบ และอื่น ๆ เด็กมักจะสนใจในการสร้างสรรค์งานที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์ในสังคม เช่น การอนุรักษ์สัตว์ป่า สันติภาพและความยุติธรรม ความยากจน ยาเสพติด ฯลฯ เด็กบางคนชอบที่จะออกแบบบ้าน เครื่องยนต์ เรือ รถ หรือ สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ หรือภาพเล่าเรื่องจินตนาการ หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับจินตนาการช่วยพัฒนาความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์ ได้มาก

การสร้างสรรค์ผลงานไม่จำเป็นต้องจริงจังหรือจำเป็นต้องมี ประโยชน์ด้านการฝึกทักษะเสมอไป การจัดแต่งสีในผลงานนามธรรมให้สวย ซึ่งน่าสนุกและให้ความเพลิดเพลินกับเด็กมาก นักดนตรีมักใช้คำว่า “เล่น” ในการ”แสดง” ดนตรี เราก็อยากจะใช้คำว่า” play around” ตอนที่เราในตอนที่เราแสดง หรือร่างแบบสเก็ตเล็ก ๆ เพื่อหาไอเดียในการวาดภาพหรือออกแบบบางอย่าง บางคนก็ใช้การเขียนคำเป็นรายชื่อเพื่อจะหาไอเดียใหม่

เด็กมักจะใช้ การวาดภาพเล่าเรื่อราวจากความทรงจำของเขา ในเด็กเล็กควรใช้คำถามที่หลากหลายช่วยที่จะทำให้พวกเขาคิดทบทวนความทรงจำกับ เรื่องที่เกี่ยวข้อกับที่จะวาด ถ้าเด็กสามารถคิดทบทวน หรือคิดพิจารณาได้ด้วยตนเองแล้ว ให้ส่งเสริมให้ใช้กระจก รูปจำลอง และวัสดุที่ได้ฝึกฝนเรื่องที่เกี่ยวกับองค์ประกอบที่ช่วยส่งเสริมการเล่า เรื่องหรือเหตุการณ์ ศิลปินมักใช้การสังเกตร่วมกับการประดิษฐ์

Kathe Kollwitz combined outline, shading and gesture drawing very expressively in this self-portrait where her arm motion is expressed as gesture.

การถ่ายโยงทักษะการวาด

ลักษะสำคัญ อย่างหนึ่งของความคิดสร้างสรรค์คือความสามารถในการถ่ายโยงสิ่งที่เราได้ เรียนรู้ไปแล้วจากเหตุการณ์หนึ่งไปใช้ในเหตุการณ์อื่น ๆ ได้อย่างเหมาะสม เราไม่คาดหวังว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปจากการฝึกวาดภาพจากการสังเกต จะสามารถนำไปใช้ได้ในการวาดภาพจากจินตนาการหรือจากประสบการณ์ได้อย่างทันที และอย่างคล่องแคล่ว บ่อยครั้งที่ครูรู้สึกผิดหวังที่เห็นเด็กที่สามารถวาดภาพจากการสังเกตได้ดี กลับนำเสนอภาพหรือรูปแบบงานที่ไม่ซับซ้อนตอนที่เขาทำงานแบบอื่นที่ไม่ใช่การ สังเกต การที่เด็กจะสามารถใช้ภาพจากการสังเกตที่ได้บันทึกไว้ในความทรงและเรียกนำ กลับมาใช้ เมื่อไม่มีสิ่งใดเผชิญหน้าให้สังเกต จำต้องใช้เวลาและการฝึกฝน เป็นธรรมชาติที่เด็กจะใช้นิสัยที่คุ้นเคยและหลงลืมว่าเขาได้เรียนรู้วิถีทาง ใหม่ในการนำเสนอสิ่งต่าง ๆ ได้แล้ว
เราอาจจะถามเด็กได้ว่า”เราจำได้มั้ย ว่าตอนที่เราวาดสิ่งนี้เราได้มองมันจริง ๆ รึเปล่า?” เราจำรูปทรงของมันได้มั้ย? จำได้มั้ยว่าแสงทำให้ภาพที่เราเห็นสิ่งนี้เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง? ในบางกรณี ตอนที่กำลังทบทวนความจำ เด็กจะแสดงสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในการเข้าถึงความเข้าใจในเรื่อง การถ่ายโยงการเรียนรู้จากการวาดภาพแบบหนึ่ง(ด้วยทักษะการสังเกต) ไปสู่การวาดภาพอีกรูปแบบหนึ่ง( จินตนาการและประสบการณ์) สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยการตั้งคำถามเด็กที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการนำความ รู้จากประสบการณ์หนึ่งมาใช้กับงานอีกประเภทหนึ่ง การให้เด็ฏนำเสนอความทรงจำในรูปแบบใหม่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยจินตนาการ และความรู้สึกอาจจะเป็นคำสั่งที่ยากเกินไป แต่ก็มีเด็กหลายคนที่สามารถทำงานที่ซับซ้อนนี้ได้ เมื่อเขาสนุกที่จะเรียนรู้และค่อยๆ ระลึกถึงทักษะใหม่ที่เขาได้เรียนรู้มาใช้ด้วย การพัฒนานิสัยในการคิดเป็นวิธีที่สำคัญในการการส่งเสริมการนำความรู้มาใช้ เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์

 

การเชื่อมโยงกับงานของศิลปินอื่น ๆ 
แม้ ว่างานของศิลปินคนอื่น ๆ จะค่อนข้างให้แรงบันดาลใจและให้การเรียนรู้ได้มาก ครูควรที่จะหลีกเลี่ยงการแสดงภาพของศิลปินอื่นในการแนะนำกิจกรรมก่อนที่จะ ให้เด็กเริ่มทำงานศิลปะ การแนะนำผลงานที่ดีๆ จะทำให้เด็กที่ทำงานตามความสามารถจากการสังเกต ความคิด จินตนาการ และความทรงจำของตนเอง แล้วทำให้พวกเขารู้สึกว่างานของเขานั้นไม่ดีพอ ซึ่งเราเชื่อว่าโดยธรรมชาติของมนุษย์ถูกโปรแกรมจากสัญชาตญาณให้ลอกเลียนแบบ อยู่แล้ว และนี่ก็เป็นพลังจากสัญชาตญาณอันหนึ่งที่มีผลต่อเด็กทุกคน

สอนวาดภาพ,สีน้ำ,สีน้ำมัน,สีอะครีลิค,ศิลปะเด็ก,ติวนฤมิตศิลป์,ติวทฤษฎีนฤมิตศิลป์,ติวมัณฑนศิลป์,ติวพัสตราภรณ์,ติวนิเทศศิลป์,ติวออกแบบภายใน,ติวสถาปัตย์ ,การทำ Portfolio ,Fashion,Computer Graphic,ติวแฟชั่น,ติวออกแบบ,ติววาดรูป,เรียนวาดรูป,เรียนศิลปะ,เรียนศิลปะเด็ก,ติวความถนัด,ติวสีน้ำ,ติวเขียนแบบ,ติวเข้าศิลปากร,ติวเข้าลาดกระบัง,รับทำกรอบรูป,กรอบรูป,ตัดกรอบรูป,กรอบลอย

Picasso on Paper
Picasso’s early work gave the artists who followed him a route into pure abstraction, with his later surrealist-inspired creations demonstrating a mastery of the human form and his inexhaustible artistic vision. Dean Gallery, until Sun 23 Sep

การส่งเสริมให้เด็ก เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และการสังเกตสิ่งต่าง ๆ อย่างเป็นนิสัยเป็นการทำได้ยาก แต่ ในระยะยาวแล้วให้คุณค่ามหาศาล แต่เว้นแต่ว่าพวกเขาถูกกระตุ้นและอบรมมาก่อน พวกเขาจะยังคงเรียนรู้สิ่งสำคัญต่าง ๆ โดยการจำลองแบบ หลายคนจะไม่สนุกกับการเรียนรู้ ไม่ฝึกนิสัยของการคิด และไม่เรียนรู้ผลที่ได้จากการเรียนรู้วิธีการของการคิดมาใช้ในการสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ ๆ
ประวัติศาสตร์ได้แสดงความล้ำค่าที่ศิลปินได้พยายามสร้างมา มากมาย มันเป็นเครื่องแสดงคุณภาพขั้นสูง และช่วยให้พวกเราเรียนรู้วัฒนธรรมของเราอย่างไม่อาจคาดคิดได้ ประวัติศาสตร์ศิลป์ย้ำเตือนเราถึงเป้าหมายสำคัญหลายอย่างของศิลปะ เราสอนประวัติศาสตร์ศิลป์ นำเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ และอื่น ๆ หลังจากที่เด็ก ๆ ได้ทำงานในหัวข้อนั้น ๆ ของตนแล้ว หรือเราอาจจะทำกิจกรรมต่าง ๆ นี้ต่างหากแยกจากการทำกิจกรรมศิลปะเลยก็ได้ การศึกษางานของศิลปิน เราไม่ควรลดความสำคัญของประสบการณ์ตรงของเด็ก ว่าเป็นสิ่งที่ดีระดับเดียวกับเนื้อหาจากงานของพวกเขาเอง

 

ระหว่าง ที่นำเสนอภาพงานศิลปะจากประวัติศาสตร์ ครูควรใช้คำถามปลายเปิดให้มาก เพื่อช่วยให้เด็กมองเห็นสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นจากผลงานเหล่านั้น แล้วถ้าต้องการให้เด็กทำงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องใด ๆ ควรให้พวกเขาเลือกหัวข้อของตนเอง(การสังเกต ,ประสบการณ์และจินตนาการของเด็กเอง) ซึ่งเป็นการให้แนวคิดที่เกี่ยวข้องกับงานของศิลปิน คำถามเดิมอาจจะถามได้ ทั้งขณะที่เด็กทำงานของเขา และในการอภิปรายผลงานจากประวัติศาสตร์ได้เช่นเดียวกัน แม้ว่าเด็กจะทำงานก่อนที่จะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ครูก็สามารถเห็นอิทธิพลจากผลงานของศิลปินในงานของเด็ก ถ้าเขาเคยมีประสบการณ์ที่น่าประทับใจจากการไปดูงานจากพิพิธภัณฑ์และจากการ เรียนประวัติศาสตร์มาก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราคาดหวังว่าจะเกิดขึ้น พอ ๆ กับช่วงแรก ๆ ของการทำงานของเด็กที่มีพื้นฐานมาจากการสังเกต จินตนาการและประสบการณ์ของตนเอง

 

A couple of never before seen drawings are seen on display at the home and now the Frida Kahlo museum in Mexico City, Thursday, June 14, 2007.

ทำอย่างไรกับงานเด็ก

แนะ นำว่าควรเก็บงานเด็กในแฟ้มเพื่อเป็นการบันทึก ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ลองย้อนกลับมาดูเพื่อดูพัฒนาการ เน้นและย้ำความก้าวหน้าให้กับเด็ก ครูอาจจะทำย้ำจุดเด่นบางอย่างในการชื่นชมเด็ก อธิบายเชื่อมโยงผลงานเด็กกับคุณลักษณะที่ดีในงานให้เด็กเข้าใจ ถ้าเป็นเด็กเล็กมาก ๆ ครูอาจจะให้เด็กออกมาอธิบายงานของตนเอง แล้วเราจะรู้ว่าการเล่าสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานของเด็กเป็นการฝึกที่ดี แม้ว่าเด็กจะอายุแค่ 2 ขวบหรือยังอยู่ในขั้นการวาดภาพแบบขีดเขี่ย เด็กก็สามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับงานของตนได้ ให้เราใส่ใจต่อการนำเสนอของเด็ก ในโรงเรียนจะดีมากถ้าจัดสถานที่แสดงงานทุก ๆ ชิ้นได้ ครูควรจะตั้งวัตถุประสงค์ของบทเรียนด้วยการแสดงงานเด็ก งานของเด็กอาจจะ มีคุณสมบัติที่ดีด้านศิลปะ แต่การเรียนรู้ต่างหากที่เป็นเป้าหมายหลักของเรา

เพียงทำให้เหมือน กับการแสดงผลงานที่บ้าน เพราะบางคนอาจรู้สึกว่าการแสดงผลงานแบบจงใจค่อนข้างสร้างความรู้สึกประหม่า กลัวให้เด็ก เด็กอาจจะกลัวว่ามันดูจริงจัง ที่จะต้องทำงานทุกชิ้นให้ดีที่สุดเพื่อที่จะแสดงบนบอร์ดจัดแสดง ซึ่งครูควรระมัดระวัง แต่ว่ามันก็เป็นการกระตุ้นที่ดีสำหรับเด็กเมื่อเห็นงานของตนแสดงอยู่บนบอร์ด

จาก ประสบการณ์ของผู้เขียน ผู้ปกครองส่วนมากต้องให้การความมั่นใจแก่เด็กให้มากขึ้น และต้องลดวิกฤตการณ์ของการวาดภาพของลูก การแก้ไขงานภาพวาดที่ผิดพลาดของลูกจะเป็นการกำจัดความสนใจในการวาดภาพของเขา เด็กที่ได้รับการชมเชยบ่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอมักจะยังคงฝึกฝนการวาดภาพของตนต่อไปเรื่อย ๆ

อ้างอิงบทความจากHOW TO TEACH DRAWING TO CHILDREN

ที่มา http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=pjan&date=20-01-2010&group=15&gblog=9